กฟผ. ร่วม มข. พัฒนา Engywall เพื่อใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ – รายการเมืองไทยใหญ่อุดม ททบ.5

      20 สิงหาคม 2564  เวลา 16.00 น. มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ “โครงการวิจัยและพัฒนา Engywall เพื่อใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์”กับ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ( กฟผ.)  โดยมี รองศาสตราจารย์ นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น และ ดร.จิราพร ศิริคำ รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ลงนาม พร้อมพยานทั้งสองฝ่ายประกอบด้วย ศาสตรจารย์ ดร.ธิดารัตน์ บุญมาศ รองอธิการบดีฝ่ายนวัตกรรมและวิสาหกิจ  คุณวีนัส หลงสมบุญ ผู้ช่วยผู้ว่าการวิจัย นวัตกรรม และพัฒนาธุรกิจ กฟผ.  และผู้บริหารจำนวนกว่า 30 ท่าน ผ่านระบบออนไลน์ Zoom Meeting

        โดยโครงการวิจัยและพัฒนา “Engywall” เพื่อใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ จะมีกรอบระยะเวลา 3 ปี โดยเป็นการนำองค์ความรู้ ผลงานวิจัย นวัตกรรม และเทคโนโลยี ตลอดจนศักยภาพของบุคลากรทั้งสองหน่วยงาน มาร่วมกันวิจัยและพัฒนาต่อยอดเป็นนวัตกรรมใหม่ขยายผลสู่เชิงพาณิชย์ ซึ่งจะดำเนินการนำแบตเตอรี่ที่พัฒนาและผลิตโดย มข. มาพัฒนาต่อเป็นระบบกักเก็บพลังงาน หรือ Battery Energy Storage System (BESS) โดยจะเรียกว่า Engywall ซึ่งเป็น BESS สำหรับใช้ในบ้าน และเพื่อให้ชุมชนนำไปใช้ให้เกิดการพึ่งพาตนเองได้อย่างมั่นคงยั่งยืน

        รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดี มข. กล่าวว่า ทั้งสองหน่วยงานจะร่วมดำเนินการพัฒนาและทดสอบประสิทธิภาพของ Engywall โดยจะนำระบบแบตเตอรี่ชนิดลิเธียมไออนที่ผลิตจากโรงงานต้นแบบของ มข. ซึ่งเป็นโรงงานผลิตแบตเตอรี่ชนิดลิเธียมไออนแห่งแรกของประเทศไทยที่ได้รับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) และผ่านการทดสอบตามมาตรฐานสากลของ IEC โดยแบตเตอรี่ที่ผลิตได้จะใช้ขั้วแอโนดที่มีนาโนซิลิกอนผลิตจากแกลบเป็นส่วนประกอบ ส่งผลให้แบตเตอรี่สามารถกักเก็บพลังงานได้สูง ปลอดภัย และรองรับการอัดประจุไฟฟ้าได้อย่างรวดเร็ว (Fast Charge) ไปประกอบกับอุปกรณ์ Inverter สำหรับระบบไฟฟ้า 1 เฟส (Single-phase Grid-connected Inverters) ของ กฟผ.

        ด้านดร.จิราพร ศิริคำ รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ กฟผ. กล่าวว่า โครงการวิจัยและพัฒนา “Engywall” เพื่อใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ จะมีกรอบระยะเวลา 3 ปี โดยเป็นการนำองค์ความรู้ ผลงานวิจัย นวัตกรรม และเทคโนโลยี ตลอดจนศักยภาพของบุคลากรทั้งสองหน่วยงาน มาร่วมกันวิจัยและพัฒนาต่อยอดเป็นนวัตกรรมใหม่ขยายผลสู่เชิงพาณิชย์ ซึ่งจะดำเนินการนำแบตเตอรี่ที่พัฒนาและผลิตโดย มข. มาพัฒนาต่อเป็นระบบกักเก็บพลังงาน หรือ Battery Energy Storage System (BESS) โดยจะเรียกว่า Engywall ซึ่งเป็น BESS สำหรับใช้ในบ้าน และเพื่อให้ชุมชนนำไปใช้ให้เกิดการพึ่งพาตนเองได้อย่างมั่นคงยั่งยืน

สำนักข่าว : ช่อง 5

ที่มา : https://tv5.co.th/tv5hd1-web//page-ep…

​​วันที่เผยแพร่ : 26 สิงหาคม 2564
Scroll to Top